เข้าใจลูกค้า…. เข้าใจ #ช่องทางการตลาด ที่เข้าถึงลูกค้าในแต่ละกลุ่ม….ก็สามารถทำอสังหาฯให้รอดในช่วง Covid ได้
.
ก่อนเกิดวิกฤติ Covid การปล่อยที่พักรายวัน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว.สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง 𝟐𝟎%-𝟑𝟎% ต่อปี หรือที่พักบางแห่งอาจทำได้สูงกว่านั้นด้วยซ้ำ
.
ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าการปล่อยเช่าที่พักรายเดือนหลายเท่าตัว
.
โดยเฉพาะการปล่อยเช่ารายวันให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง
.
แต่ในปัจจุบันการปล่อยเช่ารายวันถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
.
จากการท่องเที่ยวหยุดชะงัก ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเข้าพัก ส่งผลให้รายได้หายไป บางแห่งเรียกว่าแทบจะไม่มีรายได้กันเลยทีเดียว
.
อย่างไรก็ตาม เจ้าของที่พักที่พยายามปรับตัวและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่มีความแตกต่างจากลูกค้านักท่องเที่ยว คนจีน หรือคนยุโรป
.
การจะพยายามปรับเปลี่ยนช่องทางการตลาดหรือ #ติดอาวุธทางการตลาดให้ครบ ก็จะพอมียอดจองห้องพักจากกลุ่มลูกค้าคนไทยกลับมาบ้าง
.
วันนี้ผมจึงขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การปล่อยเช่าที่พักจากการที่มีลูกค้าเข้ามาจองในผ่านช่องทางการตลาดหลายๆช่องทาง
.
โดยผมมีบ้านปล่อยเช่า ราคาเหมาทั้งหลัง 9,900 บาทต่อคืน ซึ่งสามารถเข้าพักได้ 13 คน
.
ซึ่งขอยกเคสตัวอย่างสัก 2 เคส
.
#รายแรก ลูกค้าเห็น Ads จาก Facebook Ads ไปต่อที่เว็บ แล้ว Add LineOA เพื่อสอบถามราคา โดยลูกค้าจะเข้าพักประมาณ 6 คน ซึ่งแน่นอน ลูกค้ามองว่าราคาสูง #ไม่คุ้มค่าที่ต้องจ่าย เพราะจำนวนคนน้อยไป ทำให้ราคาต่อคนที่เข้าพักสูง
.
ส่วนผมก็ไม่ต้องการลดราคาในหน้าเว็บที่เป็นราคาเหมาปล่อยเช่าทั้งหลัง
.
ผมจึงไปวางกลยุทธโปรโมชั่นใหม่เพิ่มใน Airbnb
.
ซึ่งมีระบบรองรับในการตั้งราคาแบบขั้นบันไดได้ อาทิเช่น มีลูกค้าต้องการเข้าพัก 5 คน จะมีค่าใช้จ่าย 7,500 โดยจะคิดเพิ่มขึ้นไป 500 บาท/คน สำหรับคนที่ 6 เป็นต้นไป
.
ดังนั้นถ้ามา 10 คนจะต้องจ่าย 5 คนแรก 7,500 เพิ่มอีก 5 คนจ่ายอีก 500×5 = 2,500ทำให้ต้องจ่าย 10,000 บาท
.
จะเห็นว่าถ้ามา น้อยกว่า 10 คนถึงจะได้ราคาถูกกว่า จองโดยตรงกับผมที่คิดราคาเหมาทั้งหลัง.แต่สุดท้ายลูกค้าท่านนี้กลับมาจองตรงผ่าน LineOA กับผมโดยให้เหตุผลว่าไปชวนเพื่อนมาเพิ่ม ให้ครบ 13 คน น่าจะคุ้มกว่าเพราะได้ตัวหารเพิ่ม.ก็เลยได้ลูกค้าจองมาแบบงงๆ ที่เลือกจ่ายค่าเช่าเต็มจำนวน มากกว่าการได้รับส่วนลด
.
#รายที่สอง เห็น Ads จาก GDN แล้วไปต่อที่เว็บ Add LineOA เช่นกัน โดยแจ้งว่าต้องการเข้าพัก 8 คน.ก็เหมือนเดิมครับ ผมแจ้งว่าให้เข้าไปดูโปรโมชั่นที่ Airbnb จะดีกว่า
.
หายไปสักพัก คราวนี้ทักมาใหม่ที่ Facebook Page Messageว่าไปดูมาแล้ว 8 คน ราคาประมาณ 8,800 บาท
.
ดังนั้นถ้าจองตรงเลย “#มีส่วนลดไหม” …….. ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าที่มองกลไก Airbnb ออก
.
ใช่ครับถ้าจองกับ Airbnb ผมต้องถูกหักค่าธรรมเนียมด้วย ดังนั้นจะได้รับเงินไม่เต็ม 8,800 บาท ซึ่งทำให้รายรับน้อยลงไปอีก
.
ลูกค้าจึงอยากได้ส่วนต่างตรงนี้ มาเป็น “ส่วนลด” จึงมาต่อรองเพื่อขอจองตรงกับผม
.
แต่ลูกค้าท่านนี้อาจประเมินพลาดไปครับ แม้ว่าผมจะได้รับเงินลดลงหากจองผ่าน Airbnb.
.
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากได้มากกว่ารายได้ นั่นก็คือ “#ยอดจอง และ #รีวิว” ผ่าน Airbnb
.
……….. ทำไมถึงอยากได้ยอดจองกับรีวิวจาก Airbnb……….
.
เพราะในวันที่เปิดประเทศ ช่องทางการเข้าถึงลูกค้าชาวต่างชาติ ผ่าน Airbnb จะทำได้ดีกว่า Facebook Ads (คนจีนไม่เล่น)
.
รวมถึงการมียอดจองและรีวิวใน Airbnb ในช่วง Covid น่าจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นให้ลูกค้าชาวต่างชาติด้วย (ลองคิดดูว่า ลูกค้าเห็นว่าบ้านเรามียอดจอง ในขณะที่พักส่วนใหญ่ไม่มียอดจอง เขาจะมองภาพเรายังไง)
.
ซึ่งผมก็ได้เกริ่นนำตอนต้นไปแล้ว ว่าเราควรมีอาวุธทางการตลาดให้ครบ เพราะอาวุธแต่ละแบบเข้าถึงลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ไม่เหมือนกัน ถ้าเราใช้ #ท่าเดิมๆ ตลอด เราก็จะทำงานลำบากครับ
.
อธิบายอ้อมไปนาน…….สรุปลูกค้า ไม่จองกับ Airbnb นะครับ เพราะจริงๆเขาจะมากัน 10 คน (อ้าว…. บอกไม่หมดนี่)
.
เขาจึงกลับมาจองตรงกับผมแบบราคา เหมาทั้งหลัง
.
ซึ่งผมคิดถูกมาก…….เพราะถ้าลูกค้าบอกไม่หมด การที่เราใช้การจองผ่าน platform ตัวกลางจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งดีกว่าจองผ่านเราโดยตรงที่อาจต้องมาโต้แย้งกันไปมาและเกิดดราม่าตามมาภายหลัง
.
สุดท้ายประกาศใน Airbnb ช่วยให้ลูกค้าจองบ้านตรงกับผมได้หลายเคส ทั้งๆที่ผมก็อยากให้ลูกค้าบางเคสจองผ่าน Airbnb
.
ถ้า Support Airbnb ผ่านเข้ามาอ่านอย่าแบน Account ผมนะ
.
โดยนอกจาก Airbnb เรายังสามารถใช้กลยุทธคล้ายๆกันนี้ทำโปรโมชั่นผ่าน Booking, Agoda, Traveloka ได้ด้วยเช่นกัน
.
นอกจากนี้ผมทำ E-Voucher ลง Shopee, Lazada, Facebook Mareketplace รวมถึงโพสต์ตามกลุ่มต่างๆด้วย ซึ่งแม้จะไม่มียอดจากช่องทางนี้สักเท่าไหร่ แต่ผมอยากทดสอบติดอาวุธให้ครบ เพื่อนำมาวัดผลในแต่ละช่องทางครับ
.
จะเห็นได้ว่าถ้าเรามีอาวุธหรือช่องทางการตลาดเราครบ เราสามารถวางกลยุทธเพิ่มเติมเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
——————————————–
#คำเตือนสำหรับการทำตลาดหลายช่องทาง– ควรทำระบบ ical เพื่อเชื่อมต่ออัพเดทปฏิทินในทุกช่องทางทั้ง platform และช่องทางการตลาดของเรา (Web, LineOA)
.
เพราะถ้ามีคนจองวันซ้ำกันอันนี้เรื่องใหญ่นะครับ เราอาจโดนปรับหรือโดนแบน Account จาก platform ด้วย ในกรณีที่ไม่สามารถให้ลูกค้าเข้า หรือต้องยกเลิกลูกค้าที่จอง เนื่องจากมีลูกค้าจองซ้อนมาในวันเดียวกันจากหลาย platform
.
วิธีการซิงค์ปฏิทินในแต่ละ platform (สอนเรื่อง ical)https://www.facebook.com/2012883339039457/videos/3732751543467598เครดิต: Hostmaker Thailand ผมก็เคยเรียน Airbnb กับคุณวูดดี้
—————————————————
#คำเตือนสำหรับการทำตลาดผ่านPlatform– การลงประกาศ (Listing) บน Platform ควรถ่ายรูปให้สวย ใส่ข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่พักของเราให้มากที่สุด ที่พักเราจึงจะมีความแตกต่างจากที่พักรอบข้าง เพราะเมื่อลูกค้าเข้ามาเปรียบเทียบข้อมูลก่อนตัดสินใจจองใน Platform แล้วเรามีความแตกต่าง จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจทำจองที่พักกับเราได้ง่ายขึ้นในทางกลับกันหากเราให้ข้อมูลน้อยหรือไม่มีความแตกต่าง ก็จะทำให้ลูกค้าเข้ามาแล้วนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าหันไปจองบ้านหลังอื่นแทน
.
การสร้างความแตกต่างในตัวบ้านหรือที่พัก ผมขอนำมาอธิบายในครั้งต่อๆไปนะครับ
————————————————————-
#คำเตือนข้อมูลข้างต้น เป็นแค่ประสบการณ์ส่วนตัว ที่อยากนำมาแบ่งปันให้กับผู้ที่สนใจลงทุนทำอสังหาฯปล่อยเช่าในช่วง Covid
.
และต้องขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านมาถึงตอนท้ายนี้
.
โดยผมเองพอมีประสบการณ์ลงทุนด้านอสังหาฯมาก่อนบ้างแต่ก็เพิ่งทำบ้านเพื่อปล่อยเช่ารายวันได้ไม่นาน
.
ดังนั้นหากมีข้อแนะนำ ติชม แลกเปลี่ยนก็ยินดีรับฟัง หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมถ้าผมพอตอบได้ ก็สามารถคอมเม้นท์เข้ามาได้นะครับ ขอบคุณครับ