แม้ในวันนี้วิกฤติโควิดยังคงอยู่ แต่หากเราเข้าใจเทคโนโลยีและมาปรับใช้กับธุรกิจอสังหา เราก็พอหาช่องทางทำเงินจากอสังหาฯได้จาก 𝑩𝒖𝒔𝒊𝒏𝒆𝒔𝒔 𝑴𝒐𝒅𝒆𝒍 ใหม่ได้ง่ายขึ้น.ดังเช่น เมื่อเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือถูกพัฒนาขึ้นจนเป็น Smart Phone จนมีคนใช้อย่างแพร่หลาย
.
การพัฒนา Apps อย่าง Facebook ก็สามารถเข้าถึงคนเป็นจำนวนมาก จนทำให้เป็นที่นิยมใช้อย่างรวดเร็ว
.
ดังนั้นถ้า Facebook พัฒนา Apps มาได้ก่อน iPhone จะเกิด ก็มีโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จ
.
การทำธุรกิจก็เช่นกัน เราสามารถสร้าง 𝑩𝒖𝒔𝒊𝒏𝒆𝒔𝒔 𝑴𝒐𝒅𝒆𝒍 ใหม่ได้ โดยต้องรอ “#จังหวะเวลาที่ใช่”
.
วันนี้ผมขอมาแชร์ประสบการณ์ ในการทำธุรกิจปล่อยเช่าบ้าน ให้เป็น 𝑩𝒖𝒔𝒊𝒏𝒆𝒔𝒔 𝑴𝒐𝒅𝒆𝒍 ใหม่ที่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา
.
โดยส่วนตัวผมเคยมีโอกาสได้คุยกับนักลงทุนด้านอสังหาฯบางท่าน เรื่องการปล่อยเช่าที่พักรายวันกับรายเดือน
.
ซึ่งนักลงทุนหลายท่านทราบดีว่า การปล่อยเช่ารายวันนั้นได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า ……… แต่….. แต่……แต่….แล้วก็ แต่………
..”ปล่อยเช่ารายวันมันยุ่งยากกว่าเยอะ”………..???..”หาแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวันปวดหัวน่ะ ทำรายเดือนง่ายกว่า”..”ใครจะมาเช่า เขาไปเช่าโรงแรมดีกว่า มีอาหารเช้าให้ด้วย”..”ต้องจ้างคนมาดูแลลูกค้าเวลา Check in – Check out เบื่อที่จะดูแลลูกน้อง”..”แค่ทำ Facebook Page ยิง Ads หาคนเช่าก็ยากแล้ว ต้องมาเรียนรู้ ออนไลน์เพิ่มอีกหลายช่องทาง ปวดหัวน่ะ”…ถ้าเป็นเมื่อ 5 ปีก่อน ตัวผมก็เห็นด้วยกับทุกๆความเห็นข้างต้นเลยครับ เพราะ “#จังหวะเวลายังเร็วไป” ที่จะทำ
.
แต่วันนี้เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนามากขึ้น ถ้าเรา “#เปิดใจ” เรียนรู้กับสิ่งใหม่ เราจะได้ Business Model ใหม่ ที่แตกต่างจาก การทำธุรกิจโดยใช้ #ท่าเดิมๆ
————————
ประเด็นที่ 1: #อาหารเช้า
ในปัจจุบันที่เรามี Line Man, Grab, Food panda หรือแม้แต่ 7-11 Delivery ซึ่งสามารถแก้ปัญหาเรื่อง อาหารเช้าได้ด้วยโดยเราสามารถสั่งข้าวเหนียวหมูปิ้งมากินตอนเช้า, หมูกระทะมากินกันตอนเย็นโดยไม่ต้องล้างเตา หรือแม้แต่ถ้ามีลูกต้องการกินโยเกิร์ตเราก็สามารถสั่ง 7-11 ที่มีโยเกิร์ตหลายรสชาติ และสดใหม่.ซึ่งการเข้ามาของเทคโนโลยี Food Delivery นี้ สามารถช่วยแก้ไข ประเด็นเรื่อง อาหารเช้า ให้กับบ้านเช่ารายวันได้เป็นอย่างดี.นอกจากนี้อสังหาฯที่อยู่ในพื้นที่บริการ Food Delivery ก็มีแนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้นไปด้วย
—————————–
ประเด็นที่ 2: #แม่บ้านทำความสะอาด
.
เช่นเดียวกันกับเรื่องอาหารเช้าคือ ปัจจุบันมี Apps ที่พัฒนาเข้ามาตอบโจทย์ด้านนี้ อาทิเช่น.BeNeat : แม่บ้านออนไลน์
.
ที่สามารถหาแม่บ้านมาทำความสะอาดเป็นครั้งๆได้ ซึ่งนอกจาก BeNeat แล้วยังมี Apps ลักษณะนี้อีก 2-3 Apps
.
ถึงแม้ส่วนตัวผมผมยังไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ เพราะในพื้นที่ต่างจังหวัด อาจจะยังรองรับไม่เต็มที่ ผมก็ได้สอบถามเข้าไปที่บริษัท
.
ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่าบริษัทกำลังขยายพื้นที่เพิ่มออกไปตามหัวเมืองต่างจังหวัดเช่นกัน
.
โดยหาก Apps เปิดให้บริการในพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ ผมก็จะ Scale ธุรกิจได้ง่ายขึ้นไปอีกนอกจากนี้ในปัจจุบัน มีร้านซักผ้าที่เป็นระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้การซักเครื่องนอน สามารถทำได้ง่ายขึ้น ทั้งสะดวกและลดระยะเวลาที่สำคัญคือไม่ต้องลงทุนซื้อระบบซักผ้าแบบโรงแรมขนาดใหญ่ ก็สามารถทำความสะอาดเครื่องนอนได้มีคุณภาพเทียบเคียงกันเลย
——————————-
ประเด็นที่ 3: #การดูแลต้อนรับแขกที่มาพัก
.
บ้านเช่าผมนั้น ออกแบบมาโดยใช้ระบบ Smart home ทำให้มีกล้องบันทึก และระบบแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์เวลามีผู้เข้ามาพัก
.
และผู้เข้ามาพักสามารถเข้าบ้าน โดยไม่ต้องใช้กุญแจ โดยการกดรหัส ที่ผมส่งไปให้ และหลังจากผู้เข้าพักเดินทางกลับ รหัสจะถูกลบออกไปทันที.ซึ่งเทคโนโลยี Smart Home ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเสถียรและมีราคาสูง ซึ่งแตกต่างจากในปัจจุบันที่ราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพสูง
.
ทำให้ผมแทบจะไม่ได้เจอหน้าแขก เวลาที่เข้ามาพักในบ้านเช่าเลย และในสถานการณ์โควิดที่ต้องเน้นให้เว้นระยะห่าง
.
ลดการสัมผัสกันการใช้ระบบ Smart home จึงเป็นข้อดีอย่างยิ่ง
————————
ประเด็นที่ 4: #การชำระเงิน
ในช่วง 5 ปีที่ผ่าน App ที่ใช้สำหรับโอนเงินสะดวกขึ้นมากทั้ง prompt pay, Wallet ต่างๆ หรือแม้กระทั่งแอพที่ธนาคารพัฒนาขึ้นมา
.
ทำให้บ้านพักรายวัน ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานคอยเก็บเงิน และนำเงินข้าไปฝากธนาคารอีกต่อไป ซึ่งเราก็กำลังเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดอยู่แล้ว
——————————–
ประเด็นที่ 5: #การทำตลาดออนไลน์
ซึ่งหลายท่านอาจจะทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ Facebook เป็นหลัก แต่หากเปิดใจ พร้อมเรียนรู้เราก็จะมีช่องทางการตลาดเพิ่มเติมเช่น SEM, GDN, Line Ads, Google My Businees, Airbnb, Agoda, Booking, Traveloka, Lazada, Shopee และอีกหลากหลายช่องทางนอกจากเรายังสามารถใช้ฟีเจอร์ การล็อกวงเงินประกัน เช่นใน Airbnb เพื่อเป็นเงินประกันความเสียหายจากผู้เช่า โดยผู้เช่าไม่ต้องชำระเงิน แต่ถูกล็อกวงเงินไว้
.
และในกรณีที่บ้านมีปัญหาจากความเสียหายโดยผู้เข้าพัก เราก็สามารถเคลมค่าใช้จ่ายจาก Airbnb ซึ่งก็ทำให้สะดวกทั้งเจ้าของบ้านและผู้เช่า
***************************
จะเห็นได้ว่าเมื่อ เทคโนโลยี ถูกพัฒนาเพิ่มมากขึ้น แล้วถ้าเรานำมาปรับใช้ให้มีความแตกต่างจากการทำธุรกิจแบบ #ท่าเดิมๆ
.
.
บ้านเช่ารายวันจะมีความได้เปรียบในบางมุม เมื่อเทียบกับโรงแรมขนาดใหญ่ ด้วยซ้ำไป
.
โดยในช่วงโควิด ที่มีประกาศ Lock Down โดยเฉพาะบางครั้งเกิดเหตุการณ์ปิดๆเปิดๆเมือง
.
ปิดเมือง 2 เดือน เปิดเมือง 5 เดือนแล้วปิดใหม่ ความลำบากในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยเฉพาะโรงแรมขนาดใหญ่คือ
.
การให้พนักงานหยุดงานเป็นบางช่วง แล้วอยู่ๆก็เรียกกลับมาทำงานต่อ เนื่องจากไม่ค่อยมีพนักงานหรือคนทำงานคนไหน อยากได้รายได้ไม่สม่ำเสมอ ไม่ต่อเนื่อง เพราะทุกคนมีภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนสม่ำเสมอ
.
แต่ถ้าเรานำเทคโนโลยีมาใช้ เราจะใช้ทีมงานน้อยทำให้ลดปัญหาในการวางแผนบริหารทีมงานทำให้มีความคล่องตัว และยืดหยุ่นกว่า
.
ดังนั้นถ้าเรา เปิดใจ ปรับตัว อัพเดท เรียนรู้ เราก็จะสามารถหา 𝑩𝒖𝒔𝒊𝒏𝒆𝒔𝒔 𝑴𝒐𝒅𝒆𝒍 ใหม่ๆในการทำธุรกิจอสังหาฯในยุคโควิดได้
.
#คำเตือน ผมเพียงแค่แชร์ประสบการณ์แค่บางมุมที่ผมเคยทำมา ซึ่งปัจจุบันโลกและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน
.
ทำให้คำแนะนำผมอาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคนขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะเวลาและทำเลของแต่ละคน.โดยผมเพียงแค่หวังว่าหากเราช่วยกันเปิดใจ และอัพเดทเทคโนโลยี พร้อมนำมาปรับใช้กับธุรกิจก็จะทำให้ธุรกิจอสังหาฯในประเทศเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนมากขึ้น..ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ และหากต้องการสอบถามข้อมูลหรือมีคำแนะนำส่วนไหน สามารถคอมเม้นท์มาได้เลยนะครับ ผมจะพยายามตอบให้เท่าที่พอรู้ครับ
บ้านเช่า + เทคโนโลยี = การสร้าง Business Model ใหม่
![](https://www.klungbaan.com/wp-content/uploads/2021/06/171485066_101511275408211_4074566009708554228_n.jpg)